แนวทางการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนขนาดเล็กจังหวัดนครสวรรค์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42

ชื่อบทความ : แนวทางการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนขนาดเล็กจังหวัดนครสวรรค์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42

 บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาสภาพและแนวทางการดาเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนขนาดเล็กในจังหวัดนครสวรรค์ สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 42 ผลการวิจัยพบว่า (1) สภาพการดาเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนขนาดเล็ก อยู่ในระดับมากทั้ง 5 ด้าน ตามลาดับดังนี้ การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ด้านการคัดกรองนักเรียน ด้านการส่งเสริมนักเรียน ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา และด้านการส่งต่อนักเรียน (2) แนวทางการดาเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ได้แก่ จัดประชุมชี้แจง หรือประชาสัมพันธ์ หาช่องทางการสื่อสารระหว่างครูกับผู้ปกครอง จัดทาแผนปฏิบัติการดาเนินงาน จัดทาคู่มือ มีการจัดประชุมครู นักเรียน และผู้ปกครอง จัดให้มีกิจกรรมชุมนุมตามความถนัดและความสามารถ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับครูที่ปรึกษา พัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อให้สะดวกต่อการนาไปใช้

http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/article_detail.php?ArticleID=189308

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ:  ปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร                 การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร วิธีดำเนินการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) ใช้วิธีวิจัยเชิงปริมาณ โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ ครูที่ปรึกษาและครูประจำชั้น จำนวน 364 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย (แจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และสถิติเชิงอ้างอิงโดยวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของสเปียร์แมน (Spearman’s rank Correlation coefficient) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Stepwise multiple regression analysis) ตัวแปรปัจจัยที่ศึกษา มี 4 ปัจจัย คือ ประสบการณ์ในการทำงานของครู ประสบการณ์ในการเข้ารับการฝึกอบรมของครู จำนวนชั่วโมงสอนของครู จำนวนน...
อ่านเพิ่มเติม

บทคัดย่อเรื่องที่ 4- Building Capacity to Support Students with Autism Spectrum Disorder: A Modular Approach to Intervention

Building Capacity to Support Students with Autism Spectrum Disorder: A Modular Approach to Intervention          There is a large gap between research-based interventions for supporting children with autism spectrum disorder (ASD) and current practices implemented by educators to meet the needs of these children in typical school settings. Myriad reasons for this gap exist including the external validity of existing research, the complexity of ASD, and constraints on service delivery systems. Thus, a systematic approach is needed to adapt research-based interventions for use in typical school settings. One way to address these challenges is a modular intervention framework. In this article, we describe how a modular intervention framework could be implemented in schools. A case study is used to illustrate implementation of the framework. https://eric.ed.gov/?q=Research+for+student+support+system&pg=3&id=EJ1172821
อ่านเพิ่มเติม